วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556

บรรณานุกรม




บรรณานุกรม 


1. ดร.เกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์  “กฏหมายอาญา ภาค 1 ,  พิมพ์ครั้งที่ 10 (กรุงเทพ : สำนักพลสยาม พริ้นติ้ง  ,2551)
2. รองศาสตราจารย์ ดร. โกเมศ   ขวัญเมือง ,  “กฏหมายอาญาชั้นสูง (Advanced criminal law) ,  (กรุงเทพ : สำนักพิมพ์วิญญูชน จำกัด ,2550)
3.ดร.ทวีเกียรติ  มีนะกนิษฐ,  “คำอธิบาย กฏหมายอาญา ภาคความผิดและลหุโทษ  , พิมพ์ครั้งที่ 3 (กรุงเทพ : สำนักพิมพ์วิญญูชน จำกัด ,2549)
4. http://news.thaiza.com/
5. http://hilight.kapook.com/view/75176
6. http://www.thairath.co.th/content/oversea/123273
7. http://www.matichon.co.th


ตัวอย่างข่าว คดีวิกลจริต

 





รวบแม่ฆ่าหั่นศพลูกน้อย 2 คน ตำรวจชี้เป็นคนวิกลจริต ทำไปเพราะไม่ได้กินยาระงับประสาท คาดหลอนว่ามีคนจ้องทำร้าย

          วันนี้ (20 สิงหาคม) ร.ต.อ.สัมพันธ์ โยธิน พนักงานสอบสวน สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับแจ้งว่ามีหญิงสาวเผ่ามูเซอฆ่าหั่นศพบุตร 2 คน วัย 5 ขวบ และ 1 ขวบ บริเวณพื้นที่บ้านป่าแดง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ จึงได้ไปที่เกิดเหตุ พบว่า หญิงสาวเผ่ามูเซอคนดังกล่าว กำลังนอนหลับ โดย ข้างกายมีซากศพเด็กทั้งสองเกลื่อนอยู่บนพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกหญิงสาวรายนี้มาสอบปากคำ แต่หญิงคนดังกล่าวกลับอยู่ในสภาพที่เหม่อ ไม่ยอมพูดจา เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาร่วมครึ่งวัน จึงสามารถพิมพ์ลายนิ้วมือได้

          ร.ต.อ.สัมพันธ์ กล่าวต่อไปว่า ตนได้สอบปากคำในพยานแวดล้อมต่าง ๆ พบว่าหญิงสาวรายนี้เป็นโรควิกลจริตตั้งแต่ พ.ศ. 2550 ในเบื้องต้นได้รักษาโรคด้วยการกินยาระงับอาการทางประสาทของโรงพยาบาลฝาง ซึ่งถ้าหากไม่กิน ก็จะเกิดอาการหลอนและหูแว่วว่ามีคนมาทำร้าย อย่างไรก็ตาม ในช่วง 1-2 เดือนนี้ไม่ได้กินยาเนื่องจากยาหมด อีกทั้งวันที่เกิดเหตุได้กลับมานอนที่บ้านเพื่อรอรับยา ซึ่งสามีที่ทำอาชีพเก็บลำไยใน จ.ลำพูน จะเป็นคนรับยามาให้ ประมาณ 2-3 วัน

          สำหรับวิธีฆาตกรรมของหญิงสาวเผ่ามูเซอรายนี้ ร.ต.อ.สัมพันธ์ ระบุว่า หญิง คนดังกล่าวใช้มีดฟันกิ่งไม้ใหญ่ 3 ด้าม ฟันลูกทั้ง 2 คนออกเป็นชิ้น ๆ โดยที่ศีรษะถูกสับโดยละเอียด แต่ไม่ได้นำซากศพส่วนอื่น ๆ ไปทำอะไรต่อ สำหรับข่าวในอินเทอร์เน็ตที่มีการขยายความว่า แม่รายนี้ได้นำซากศพมาต้มแซบนั้น เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตัดประเด็นเรื่องยาเสพติดทิ้งไปด้วย เนื่องจากไม่พบหลักฐานใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประวัติครอบครัวไม่มีการเสพและการค้ายาเสพติดอีกด้วย

          ร.ต.อ.สัมพันธ์ กล่าวปิดท้ายว่า ได้แจ้งดำเนินคดีกับหญิงสาวรายนี้ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแล้ว ซึ่งการฝากขังจะส่งไปที่โรงพยาบาลสวนปรุง เพราะถือว่าผู้ต้องหามีความผิดปกติทางจิต ไม่สามารถต่อสู้คดีได้[8]


[8] http://hilight.kapook.com/view/75176

ตัวอย่างข่าวเกี่ยวกับฆ่าคนตายโดยประมาท



                                   

                                  กัปตันเรือล่มโดนข้อหาฆ่าคนตายโดยประมาท


จากเหตุการณ์เรือสำราญพลิกคว่ำในอิตาลีจนมีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน ล่าสุดบริษัทเจ้าของเรือระบุว่า สาเหตุเกิดจากความผิดพลาดของกัปตันเรือที่มีความประมาทจนเป็นเหตุให้เรือชน เข้ากับหินโสโครก

ตำรวจอิตาลีจับกุมกัปตันเรือสำราญกอสตา กองกอร์เดีย ที่ได้แล่นชนหินโสโครกและเกยตื้นบนเกาะแห่งหนึ่งนอกชายฝั่งด้านตะวันตกของ อิตาลี ในขณะที่เจ้าหน้าที่ชายฝั่งยังคงค้นหาผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุดังกล่าว

ตำรวจอิตาลีได้เข้าจับกุมนาย ฟรานเซสโก สเกตตีโน กัปตันเรือสำราญกอสตา กองกอร์เดีย ในข้อหาฆ่าคนตายโดยประมาท หลังจากที่เรือสำราญลำดังกล่าวได้ชนกับหินโสโครก ก่อนที่เกยตื้นบนสันดอนทรายใกล้กับเกาะจิลโญ่ ใกล้กับชายฝั่งด้านตะวันตกของอิตาลี ส่วนผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่พบศพเพิ่ม 2 ศพ /ส่งผลให้พบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย สูญหายอีก 15 ราย และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่ชายฝั่งได้ระดมกำลังเพื่อค้นหาผู้ที่ยังติดอยู่ใน เรือสำราญลำดังกล่าว

ผู้โดยสารคนหนึ่งเล่าถึงกล่าวว่า เขาเห็นกัปตันฟรานซิสโก นั่งดื่มแอลกฮอลล์อยู่ที่บาร์ตลอดช่วงค่ำ และไม่ได้กลับขึ้นไปทำหน้าที่บนหอบังคับการเรือ นอกจากนี้ การอพยพยังเป็นไปอย่างโกลาหลโดยปราศจากการดูแลของกัปตัน เนื่องจาก กัปตันฟรานซิสโกกลับหนีเอาตัวรอดเป็นคนแรกทันทีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยไม่สนใจลูกเรือหรือผู้โดยสารคนอื่นๆแต่อย่างใด

ด้านกัปตันฟรานซิสโกได้ให้การว่าอุปกรณ์เดินเรือไม่สามารถตรวจจับหินโสโครก ดังกล่าวได้ ส่งผลเรือลำดังกล่าวได้แล่นชนหินโสโครก ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเส้นทางไปยังเกาะจิลโญ่เพื่อขอความช่วยเหลือในทันที

ทั้งนี้ เรือสำราญกอสตา กองกอร์เดีย เป็นเรือเดินสมุทรที่แล่นในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งได้ออกจากท่าเรือในเมืองซิวิตาเวเซียพร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือกว่า 4,000 คน และมุ่งหน้าไปยังท่าเรือในเมืองซาวอนา โดยเรือลำดังกล่าวเคยประสบอุบัติเหตุเล็กน้อยมาแล้วก่อนหน้านี้[7]




[7]http://news.thaiza.com/

โครงสร้างที่ 3


3.การกระทำที่ไม่มีกฎหมายยกเว้นโทษ

กฏหมายที่ยกเว้นโทษ ให้แก่การกระทำต่างๆ ที่เป็นความผิดมีหลายกรณีด้วยเช่นกัน
               1.การกระทำความผิดโดยจำเป็น  (มาตรา ๖๗)
               2.การกระทำความผิดของเด็กอายุไม่เกิน 10ปีและไม่เกิน 15 ปี(มาตรา 73 และ 74)
                3.การกระทำความผิดของคนวิกลจริต (มาตรา65)
4.การกระทำความผิดของผู้มึนเมา (มาตรา 66)
5.การกระทำความผิดตามคำสั่งที่มิชอบด้วยกฎหมายของเจ้าพนักงาน (มาตรา 70)
6.การกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ในบางความผิดระหว่างสามีและภรรยา (มาตรา71)[5]

การกระทำโดยจำเป็น มาตรา 67

จำเป็นเพราะอยู่ในที่บังคับ
- อยู่ในที่บังคับหรือภายใต้อำนาจ (มีการบังคับให้กระทำหรือ ไม่กระทำอย่างหนึ่งอย่างใดจากภายนอก ซึ่งการนั้นเป็นความผิด)
- ไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนได้ (ผู้กระทำไม่มีทางเลือกอย่างอื่นนอกเหนือจากกระทำความผิดตามที่ถูกบังคับนั้น)
 - มิได้ก่อเหตุการนั้นขึ้นโดยความผิดของตน
- กระทำไปไม่เกินขอบเขต มาตรา 69
จำเป็นเพื่อให้พ้นภยันตราย
- มีภยันตรายที่ใกล้จะถึงซึ่งจะละเมิดต่อกฎหมายหรือไม่ก็ได้
- ไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นโดยวิธีอื่นใดได้แล้ว และภัยนั้นมิได้เกิดจากความผิดของตน
- กระทำไปโดยมีเจตนาเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นพ้นจากภยันตราย
- กระทำไปไม่เกินขอบเขต มาตรา 69[6]


[5] ดร.เกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์, อ้างแล้วเชิงอรรถที่1, หน้า 91-92.
[6] รองศาสตราจารย์ ดร. โกเมศ   ขวัญเมือง , อ้างแล้วเชิงอรรถที่ 2 , หน้า 77